ประตูฉุกเฉิน รถบัส เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญในการขนส่งผู้โดยสาร ใช้สำหรับการอพยพฉุกเฉินในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันตราย เช่น อุบัติเหตุหรือไฟไหม้
คุณสมบัติของประตูฉุกเฉินรถบัส
- ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงง่าย:
- มักอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังของตัวรถ
- มีระบบเปิดแบบพิเศษ:
- อาจใช้ระบบคันโยก ดัน หรือปลดล็อกด้วยแรงมือ
- ติดตั้งสัญลักษณ์ชัดเจน:
- มีข้อความ “ประตูฉุกเฉิน” หรือ “Emergency Exit” พร้อมลูกศรชี้
- ใช้สีสันโดดเด่น เช่น สีแดงหรือสีเหลือง
- วัสดุแข็งแรง ทนทาน:
- ทำจากวัสดุที่สามารถทนแรงกระแทก แต่เปิดง่ายในกรณีฉุกเฉิน
- ระบบปลดล็อกอัตโนมัติ:
- บางรุ่นมาพร้อมระบบปลดล็อกอัตโนมัติในกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
ตำแหน่งของประตูฉุกเฉินในรถบัส
- ด้านข้างตัวรถ:
- มักอยู่ใกล้กับบริเวณที่นั่งผู้โดยสารเพื่อให้เข้าถึงได้สะดวก
- ด้านหลังตัวรถ:
- ประตูฉุกเฉินที่ด้านหลังช่วยเพิ่มทางเลือกในการอพยพ
- ช่องหน้าต่างฉุกเฉิน:
- บางคันติดตั้งหน้าต่างที่สามารถเปิดออกหรือทุบได้ในกรณีฉุกเฉิน
ระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม
- กระจกนิรภัยแตกง่าย (Tempered Glass):
- บริเวณหน้าต่างฉุกเฉินหรือประตูอาจมีกระจกที่สามารถทุบเพื่อออกจากรถ
- ค้อนทุบกระจก:
- ติดตั้งใกล้กับประตูหรือหน้าต่างเพื่อให้ใช้งานง่าย
- สัญญาณเตือนภัย:
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเปิดประตูฉุกเฉิน
- ไฟฉุกเฉินเรืองแสง:
- มีไฟ LED หรือป้ายเรืองแสงเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนในที่มืด
ขั้นตอนการใช้งานประตูฉุกเฉิน
- ปลดล็อก:
- ใช้มือดึงคันโยกหรือดันแผ่นเปิด
- ผลักประตูออก:
- ประตูถูกออกแบบให้เปิดออกง่ายด้วยแรงดัน
- ออกจากตัวรถ:
- อพยพผู้โดยสารออกจากรถอย่างรวดเร็ว
ข้อกำหนดมาตรฐาน
- ตามกฎหมาย:
- ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ การติดตั้งประตูฉุกเฉินในรถบัสเป็นข้อกำหนดที่สำคัญ
- มาตรฐานสากล:
- UNECE Regulation 107 (มาตรฐานยุโรป) กำหนดข้อกำหนดเรื่องการติดตั้งประตูฉุกเฉินในรถโดยสาร
การดูแลรักษา
- ตรวจสอบสภาพการใช้งานประจำ:
- ตรวจสอบกลไกการเปิด-ปิด และระบบล็อก
- ทดสอบการใช้งาน:
- ทดลองเปิดประตูฉุกเฉินอย่างน้อยเดือนละครั้ง
- ตรวจสัญญาณเตือนภัย:
- ให้มั่นใจว่าไฟฉุกเฉินและสัญญาณเตือนทำงานปกติ
ข้อควรระวัง
- ห้ามใช้ประตูฉุกเฉินในสถานการณ์ปกติ
- ให้ความรู้ผู้โดยสารเกี่ยวกับวิธีใช้งานในกรณีฉุกเฉิน
- ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เสริม เช่น ค้อนทุบกระจก และไฟฉุกเฉิน