PSV ขาย ประตูเหล็กทนไฟ และ รวมถึง บริการติดตั้ง ประตูหนีไฟ โทรสอบถาม ราคา ประตูหนีไฟ 093-6951979 และPSV บริษัท ขายถังดับเพลิง ยังมีผลิต ประตูหนีไฟ ประตูเหล็กทนไฟ ตามมาตรฐานของอาคาร ตลอดทั้ง PSV เป็นผู้นำเข้า-และจำหน่ายอุปกรณ์เซฟตี้ ผลิตตู้เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง ตู้สแตนเลส ประตูเหล็กทนไฟ ประตูหนีไฟ รับติดตั้งไฟอลามในอาคารตามแบบวิศวะกำหนด บริการดูหน้างานฟรี!
การติดตั้งประตูหนีไฟ (Fire Exit Door) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ โดยประตูหนีไฟจะทำหน้าที่เป็นเส้นทางออกจากอาคารและช่วยป้องกันไฟหรือควันจากการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของอาคาร ซึ่งการติดตั้งประตูหนีไฟจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายและวิศวกรรมอาคาร มาดูขั้นตอนหลักๆ ในการติดตั้งประตูหนีไฟดังนี้:
1. การเลือกประตูหนีไฟที่เหมาะสม
- วัสดุของประตู: ประตูหนีไฟมักทำจากวัสดุที่ทนไฟ เช่น เหล็ก หรือวัสดุผสมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันการลุกลามของไฟ
- มาตรฐานการทนไฟ: เลือกประตูที่มีการทดสอบมาตรฐานการทนไฟ เช่น มาตรฐาน BS 476, UL, หรือ NFPA โดยประตูจะสามารถทนไฟได้ระยะเวลาหนึ่ง (เช่น 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง) ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
- ขนาดของประตู: ขนาดประตูหนีไฟควรตรงกับขนาดของช่องประตูที่เตรียมไว้
2. การตรวจสอบตำแหน่งการติดตั้ง
- ตำแหน่งการติดตั้งประตูหนีไฟควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอพยพหนีไฟ และต้องสอดคล้องกับกฎหมายอาคาร เพื่อให้สามารถใช้เป็นเส้นทางหนีไฟที่ปลอดภัย
- ประตูหนีไฟควรติดตั้งในทางเดินหลัก หรือพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายในกรณีฉุกเฉิน เช่น บันไดหนีไฟ หรือทางออกที่นำไปสู่ภายนอกอาคาร
- ตรวจสอบว่าพื้นที่บริเวณรอบประตูไม่มีสิ่งกีดขวาง และมีป้ายสัญลักษณ์บอกทิศทางหนีไฟที่ชัดเจน
3. การติดตั้งวงกบและบานพับประตูหนีไฟ
- วงกบประตู (Door Frame): ต้องติดตั้งให้ตรงและแข็งแรง เพราะวงกบที่ไม่มั่นคงอาจทำให้ประตูปิดไม่สนิท ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันไฟหรือควัน
- บานพับ (Hinges): ใช้บานพับที่ผ่านการรับรองว่าสามารถทนไฟได้ โดยปกติควรใช้บานพับ 3 จุดขึ้นไปเพื่อรองรับน้ำหนักของประตูหนีไฟ
- ซีลกันควัน (Smoke Seals): ติดตั้งซีลกันควันรอบประตู เพื่อป้องกันควันไฟจากการรั่วไหลผ่านช่องว่างรอบประตู
4. ติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง
- มือจับแบบกันไฟ (Fire-Rated Door Handles): มือจับหรือก้านโยกที่ใช้กับประตูหนีไฟต้องทนไฟและใช้งานได้ง่ายในกรณีฉุกเฉิน โดยควรเป็นแบบที่สามารถเปิดได้ง่ายจากภายในโดยไม่ต้องใช้กุญแจ
- ระบบกันปิดประตูอัตโนมัติ (Self-Closing Mechanism): ประตูหนีไฟควรมีระบบปิดอัตโนมัติที่ทำให้ประตูปิดแน่นทุกครั้งหลังการเปิด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไฟหรือควัน
- ระบบล็อก (Panic Bars): ประตูหนีไฟมักติดตั้งแท่งล็อกฉุกเฉิน (panic bar) ที่สามารถเปิดได้ง่ายในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพียงกดลงที่แท่งประตู
5. ตรวจสอบการทำงานของประตูหนีไฟ
- ทดสอบการเปิด-ปิดของประตูให้แน่ใจว่าประตูสามารถปิดได้สนิทเมื่อเปิดหรือใช้บานพับที่เหมาะสม
- ตรวจสอบการทำงานของซีลกันควัน เพื่อป้องกันควันจากการรั่วผ่านประตู
- ตรวจสอบระบบปิดอัตโนมัติว่าใช้งานได้ปกติ และไม่มีการติดขัด
6. การบำรุงรักษาประตูหนีไฟ
- การตรวจสอบประจำ: ควรตรวจสอบประตูหนีไฟและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง หรือบ่อยตามที่กฎหมายกำหนด
- การซ่อมแซม: หากพบปัญหาในการปิดไม่สนิท หรือซีลกันควันเสื่อมสภาพ ควรซ่อมแซมทันที
- ทำความสะอาดและหล่อลื่น: ตรวจสอบบานพับและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สามารถทำงานได้ดี โดยหล่อลื่นตามความจำเป็น